สวัสดีครับ ห่างหายกันไปนาน สำหรับ “เคล็ดลับในการเลือกซื้อ” โดยในวันนี้ผมมี วิธีเลือกซื้อ โปรเจคเตอร์ ฉบับสมบูรณ์ ซึ่งจะเป็นการรวบรวมทุกสิ่งอย่างที่ผมรู้ เกี่ยวกับ โปรเจคเตอร์ มาอธิบายให้สั้น กระชับ และเข้าใจง่ายตามสไตล์ของผม โดยก็จะมีกล่าวถึงกันในหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็น รูปแบบการฉายภาพ โปรเจคเตอร์, รูปแบบของแสง ไฟ โปรเจคเตอร์ ไปจนถึงพอร์ตการเชื่อมต่อของโปรเจคเตอร์
หลังจากอ่านบทความนี้จบรับประกันว่าเพื่อนๆ จะเข้าใจหลักการทำงานเบื้องต้นของโปรเจคเตอร์ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกโปรเจคเตอร์ดีดีซักตัวได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน โปรเจคเตอร์ตัวนึงก็ไม่ใช่ถูกๆ ซื้อไปแล้วไม่ตอบโจทย์การใช้งาน โดนเมียด่าตาย ถ้าพร้อมแล้ว ไปชมกันเลยครับ ~
ก่อนที่จะเข้าเรื่อง วิธีเลือกซื้อ โปรเจคเตอร์ ผมต้องขออนุญาติอธิบายกันก่อนว่า โปรเจคเตอร์ คืออะไร โดยผมจะอธิบายง่ายๆ ว่าโปรเจคเตอร์ คือ อุปกรณ์ในส่วนของ Output ที่ทำหน้าที่ในการ รับข้อมูลจากเครื่องเล่น Blu-Ray หรือ คอมพิวเตอร์ เพื่อประมวลผล และสร้างภาพขึ้นมา (Generated) เพื่อฉาย (Projection) ไปยัง จอ, กำแพง หรือพื้นผิวอื่นๆ ที่ต้องการ โดยพื้นผิวที่จะฉายภาพไปส่วนมากจะเน้นเป็นพื้นผิวที่มีผิวเรียบ และมีสีที่อ่อน เพื่อให้ภาพที่ฉายมีความสวย และสดใสโดยไม่โดนสีของพื้นผิวทำให้ภาพผิดเพี้ยนไปนั่นเองครับ
โปรเจคเตอร์ ดูหนัง เป็นโปรเจคเตอร์ที่เน้นในเรื่องของคุณภาพ (Quality) ของภาพ และคอนทราสก์ (Contrast) ที่สูง สีดำ ต้องดำสนิท (Deep Black) และสีสีนของภาพต้องสวยสด (Rich Color Saturation) หากเพื่อนๆ ต้องการประสบการณ์การชมภาพยนต์ให้ดียิ่งขึ้นกว่านั้นอีก แนะนำว่าให้มองหา โปรเจคเตอร์ 4K ที่จะช่วยให้รายละเอียดของภาพที่ดียิ่งขึ้น และสีสันที่สวยสดยิ่งกว่า ช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมภาพยนต์ขั้นสุด!
โปรเจคเตอร์ ดูหนัง เป็นโปรเจคเตอร์ที่ถูกออกแบบมาให้เหมือนกับคุณกำลังชมภาพยนต์อยู่ภายในโรงภาพยนต์จริงๆ แน่นอนว่าสภาพแวดล้อมที่จะนำไปใช้เป็นปัจจัยสำคัญไม่น้อย แนะนำว่าควรที่จะมีห้องที่มีไว้สำหรับชมภาพยนต์โดยเฉพาะ ควรจะเป็นห้องที่มืดสนิท ไม่มีแสงภายนอกเล็ดลอดเข้ามารบกวน จะเป็นอะไรที่เพอเฟ็คต์เป็นอย่างมาก
หรือหากไม่มีห้องในลักษณะนั้น ทีมงานแนะนำให้เพื่อนๆ มองหาโปรเจคเตอร์ที่มีค่าความสว่างสูงขึ้นมาอีก และเลือกใช้จอโปรเจคเตอร์ที่เป็นจอ High Quality Reflective Screen ก็สามารถทดแทนในกรณีที่ไม่มีห้องสำหรับชมภาพยนต์โดยเฉพาะได้เช่นกันครับ
โปรเจคเตอร์พกพา จะมีขนาดตัวที่เล็ก กะทัดรัด และมีน้ำหนักตัวไม่ถึง 1.5 กก. เพื่อนๆ สามารถที่จะถือโปรเจคเตอร์เหล่านี้ได้ด้วยมือเดียว แม้ขนาดตัวจะเล็กแต่ในเรื่องของคุณภาพของภาพที่ได้ ต้องบอกว่าทรงพลังมากพอที่จะช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมภาพยนต์เรื่องโปรดของเพื่อนๆ ได้ไม่ยาก
นอกจากนี้ข้อดีที่ไม่พูดถึงไม่ได้ของโปรเจคเตอร์พกพาเลย คือ หลอดไฟของโปรเจคเตอร์พกพานั้นถูกออกแบบมาให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานเป็นพิเศษ และที่สำคัญเลยคือโปรเจคเตอร์เหล่านี้จะมีการติดตั้งใช้งานที่ง่ายมากๆ เพื่อนๆ สามารถพกออกไปประชุมนอกสถานที่, พักผ่อนกับครอบครัว หรือไปดูหนังที่บ้านเพื่อนตอนกลางคืน โปรเจคเตอร์พกพา ก็ตอบโจทย์การใช้งานเหล่านั้นได้ทั้งหมดครับ
เป็นโปรเจคเตอร์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับใช้งานในการนำเสนองาน, การประชุม หรือการเรียนการสอนภายในห้องเรียน โดยในบางครั้งอาจถูกเรียกว่า มัลติมีเดียโปรเจคเตอร์ (Multimedia Projectors) หรือดาต้าโปรเจคเตอร์ (Data Projectors)
โดยโปรเจคเตอร์ นำเสนองาน จะมีจุดเด่นคือ ค่าความสว่าง (Brightness) ของโปรเจคเตอร์ จะมีความสว่างเป็นพิเศษ โดยจะมีค่าความสว่างที่มากกว่าโปรเจคเตอร์สำหรับชมภาพยนต์ จึงเหมาะกับการใช้งานภายในห้องประชุม หรือห้องเรียนที่มีความสว่าง เพราะห้องประชุม หรือห้องเรียนตามปกติ จะเป็นห้องที่มีแสงสว่างมาก จากทางหน้าต่าง หรือหลอดไฟภายในห้อง ถูกออกแบบมาสำหรับการนำเสนอภาพนิ่งเป็นหลัก เช่น กราฟ และสไลด์ PowerPoint แต่ก็ยังสามารถใช้งานด้านมัลติมีเดียได้ในบางกรณีครับ
ขอบเขตในการแสดงสีของโปรเจคเตอร์ เราจะเรียกกันว่า “Color Gamut” (คัล-เลอ-กา-มุท) โดยยิ่งโปรเจคเตอร์แสดงขอบเขตของสี (Color Gamut) ได้กว้างเท่าไหร่ก็จะยิ่งดีเท่านั้น โดยโปรเจคเตอร์ในปัจจุบัน จะมีรูปแบบในการฉายภาพ แยกออกมาเป็น 3 แบบ โดยเราจะแยกกันด้วยเทคโนโลยีในการฉายภาพ ได้แก่